ลานสนภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (ดูภาพด้านล่าง)

หมายเหตุ : เนื้อหาและรูปภาพในหัวข้ออุทยานแห่งชาติภูสอยดาวนี้มีด้วยกันทั้งหมด 4 หน้า ท่านสามารถ click link ที่ด้านล่างสุดของหน้า เพื่อชมข้อมูลและรูปภาพในหน้าต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ


     ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) เดินบ้าง ปีนบ้าง ถ่ายภาพบ้าง กางร่มป้องกันเม็ดฝนซึ่งตกลงมาเป็นระยะ ๆบ้าง แวะรับประทานอาหารระหว่างทางบ้าง ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 – 5 ชม.ก็ขึ้นมาถึงจุดกางเต็นท์บริเวณลานสนภูสอยดาวซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,633 เมตร ภาพแรกที่ปรากฏแก่สายตาเบื้องหน้าของพวกเราก็คือ เงาร่างทิวแถวแนวสีดำของสนภูเขาที่ยืนต้นตระหง่านอยู่ท่ามกลางสายหมอกจาง ๆ สีขาวตัดกับสีเขียวสดของแมกไม้ใบหญ้าซึ่งปกคลุมไปทั่วผืนแผ่นดิน มีดอกหงอกนาคสีม่วงชูช่ออวดโฉมกระจายอยู่ทั่วบริเวณดูสวยงามอย่างยิ่ง เต็นท์ผ้าใบหลากสีหลายขนาดถูกกางขึ้นในพื้นที่ซึ่งมีการขุดคูระบายน้ำเล็ก ๆ ไว้โดยรอบเพื่อป้องกันไม่ให้มีน้ำฝนไหลเข้ามาท่วมขัง นักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่กางเต็นท์เสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังตระเตรียมอุปกรณ์ปรุงอาหารเนื่องจากบริเวณจุดกางเต็นท์ลานสนภูสอยดาวนี้ไม่มีร้านจำหน่ายอาหารหรือสินค้าบริการใด ๆตั้งอยู่ หากนักท่องเที่ยวกลุ่มใดไม่ได้พกพาอาหารสำเร็จรูปหรืออุปกรณ์ปรุงอาหารพร้อมวัตถุดิบมาด้วยก็เดือดร้อนแน่นอน

..........ทุ่งดอกหงอนนาคกลางลานสน..........

ความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของ "ภูสอยดาว" อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์

     บนลานสนภูสอยดาวไม่มีบ้านพักอุทยานฯเปิดให้บริการเพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาค้างแรมบนภูสูงบรรยากาศสวยแห่งนี้จึงจำเป็นต้องกางเต็นท์พักแรมเท่านั้น (ในกรณีที่เช่าเต็นท์และเครื่องนอนของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวจะไม่มีบริการกางเต็นท์ให้ฟรี แตกต่างจากอุทยานแห่งชาติแห่งอื่น ๆซึ่งมักจะมีบริการดังกล่าวให้ครับ) คำแนะนำสำหรับการกางเต็นท์บนลานสนภูสอยดาวในช่วงฤดูฝนนอกจากจะต้องขุดคูระบายน้ำเอาไว้โดยรอบพื้นที่กางเต็นท์แล้ว นักท่องเที่ยวยังควรเตรียมผ้าใบกันน้ำชนิดหนาสำหรับกางคลุมป้องกันฝนซึ่งในบางครั้งจะตกหนักต่อเนื่องข้ามวันข้ามคืนไว้ด้วย

ทะเลหมอกยามเย็น.....ใครไม่เคยเห็นก็ได้เห็นที่นี่

.....ซึ้ง.....อึ้ง.....ทึ่ง.....ณ จุดชมพระอาทิตย์ตกภูสอยดาว

     กว่าที่ลูกหาบซึ่งแบกสัมภาระของพวกเราจะเดินตามขึ้นมาถึงลานสนภูสอยดาวครบทุกคนเวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบ 16.30 น. พวกเรารีบจัดแจงกางเต็นท์ เก็บของ เปลี่ยนรองเท้า ทำธุระส่วนตัวอื่น ๆ อีกเล็กน้อยถึงเวลาประมาณ 17.20 น. จากนั้นพวกเราก็ออกเดินไปยัง “จุดชมพระอาทิตย์ตกภูสอยดาว” ทันที แม้ว่าในเย็นย่ำวันนี้จะมีเมฆหมอกปกคลุมบนฟากฟ้าหนาแน่นแต่พวกเราก็ยังคงเฝ้ารออยู่ ณ จุดชมพระอาทิตย์ตกอย่างใจจดใจจ่อด้วยความคาดหวังว่า ในยามที่ดวงอาทิตย์กำลังจะอำลาวันเก่าผืนนภาจะแย้มพรายประกายแสงเงาอันสดสวยออกมาให้พอเก็บภาพได้บ้าง..........และแล้ว..........หลังจากใช้เวลาอดทนรออยู่สักพักเมฆบางส่วนก็เริ่มเปิดออกเผยให้เห็นแสงสีแสดแดงอมเหลืองที่เล็ดลอดผ่านช่องว่างระหว่างกลุ่มไอน้ำในอากาศสีขาวขนาดใหญ่ออกมาแต่งแต้มสีสันให้ฟากฟ้าซึ่งเคยหม่นมัวกลับดูมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง..........ช่วงเวลาขณะนี้ ณ ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ ธรรมชาติได้แบ่งปันความสุขให้แก่หัวใจดวงเล็ก ๆ ของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนอีกคราว

..........ชั่วยามแห่งความทรงจำ..........

ขุนเขา และ เมฆหมอก

..........ยามเย็นบนภูสอยดาวกับแสงเงาหลากสี..........

     ความยากลำบากอีกประการหนึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวที่ตัดสินใจมาพักค้างแรมบนภูสอยดาวต้องประสบพบเจอนั้น ได้แก่ ห้องน้ำ – ห้องสุขาที่ไม่มีระบบประปาทางท่อทำให้ผู้ซึ่งจะอาบน้ำชำระล้างร่างกายหรือระบายเศษสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ จำเป็นต้องนำถังไปตักน้ำจากลำธารใกล้ ๆมาใช้ด้วยตนเอง นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมขอเตือนว่าต้องพกพาติดตัวเอาไว้อย่าให้หลงลืมได้เลย ก็คือ “กระดาษชำระ” .....เพราะหากว่าคุณเลินเล่อหลงผิดคิดว่าห้องสุขาที่นี่มี “สายชำระ” ไว้สำหรับฉีดน้ำทำความสะอาดแล้วล่ะก็.....คุณอาจจะได้พบกับประสบการณ์สุดสยองพองขนยามเมื่อปลดทุกข์เสร็จเรียบร้อยก็เป็นได้!!

     ในขณะที่ยังอาบน้ำไม่เสร็จดี สายฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้ง พวกเราบางคนต้องเดินนำถังไปตักน้ำจากลำธารท่ามกลางหยดน้ำจากฟากฟ้าซึ่งพร่างพรูลงมาเป็นระยะ ๆ ในสภาพสุดแสนทุลักทุเล ใครที่ไม่ได้รักการท่องเที่ยวผจญภัยแบบสมบุกสมบันเช่นนี้ก็ควรจะคิดให้หนัก ๆ ก่อนตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยว ณ ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์..........เราเตือนคุณแล้วนะครับ